3 ขั้นตอน การใช้ออกซิเจนที่บ้านให้ปลอดภัย
การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด 19 ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมจำนวนมากจนโรงพยาบาลไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด เนื่องจากการรักษาและฟื้นตัวของผู้ป่วยที่มีอยู่ต้องใช้เวลา แต่ผู้ติดเชื้อใหม่ยังทยอยเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมี Home Isolation หรือการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ให้สามารถพักรักษาตัวที่บ้าน หรือสถานที่เฉพาะที่ถูกจัดไว้ให้แทนการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยจะได้รับความช่วยเหลือและการติดตามอาการจากแพทย์อยู่เสมอ อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยบางรายที่รอเตียงเป็นเวลานานจนอาการหนักจนต้องใช้ถังออกซิเจนช่วยหายใจ ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและมีความรู้ในการใช้งานอย่างถูกต้อง
- รู้ก่อนใช้
- ก๊าซออกซิเจนโดยตัวเองไม่ติดไฟ แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดการลุกไหม้ที่รวดเร็วและรุนแรง
- ก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ต้องบรรจุในถังสีเขียว ที่มีสัญลักษณ์ มอก. 540-2555
- ห้ามใช้ถังที่เป็นสนิม
- ข้อต่อตรงถังต้องใช้เกลียวนอกมาตรฐาน CGA 540 เท่านั้น
- หัวอุปกรณ์ปรับลดแรงดัน ต้องใช้หัวสำหรับออกซิเจนทางการแพทย์เท่านั้น
- ควรมีถังดับเพลิงติดตั้งไว้บริเวณใกล้เคียง
2. ระวังตอนใช้
- เวลาใช้งานให้วางแนวตั้งและยึดให้แน่น
- ระวังการเคลื่อนย้าย หากล้มกระแทกอาจระเบิดได้
- ห้ามวางถังออกซิเจนในห้องโดยสารรถ เพราะถ้าเกิดการรั่วจะเป็นอันตรายได้
- ตอนใช้งานต้องอยู่ห่างจากห้องครัวอย่างน้อย 5 เมตร และต้องไม่อยู่ใกล้ความร้อนหรือเปลวไฟ เช่น สูบบุหรี่ ไดร์เป่าผม เตารีดดัดผม แผ่นทำความร้อนหรือมีดโกนไฟฟ้า
- ห้ามใช้สเปรย์ฉีด เช่น สเปรย์ปรับอากาศ หรือสเปรย์ฉีดผมใกล้ชุดจ่ายออกซิเจนเพราะละอองฝอยมีความไวไฟสูงมาก
- ไม่ใช้ครีมหรือโลชั่นที่ติดไฟได้ เช่น ไอระเหยของผลิตภัณฑ์ทาถู ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือโลชั่นทามือที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- ไม่ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือขณะใช้ เว้นแต่จะปล่อยให้มือแห้งสนิทก่อนหยิบจับอุปกรณ์ออกซิเจน
3. ดูแลหลังใช้
- อย่าวางถังแนวนอน ให้วางแนวตั้งและยึดกับที่ให้แน่น
- อย่าเก็บในที่ปิด เช่น ตู้เสื้อผ้า หีบ และให้ห่างจากแหล่งความร้อน เปลวไฟอย่างน้อย 1.5 เมตร
- ติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ หรือห้ามจุดไฟ
- ปิดวาล์วให้สนิทหลังใช้และหมั่นตรวจสอบการรั่ว
- ก่อนส่งคืน ควรฆ่าเชื้อด้วยการเช็ดผิวนอกของถังด้วยแอลกอฮอล์ 70% โดยต้องแน่ใจว่าวาล์วปิดสนิทและไม่รั่วไหล
ที่มา : สสส. เสนอเนื้อหาโดย : Orizan น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว