เนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อสัตว์ไม่แปรรูปอะไรอันตรายกว่ากัน ?

นักวิจัยพบว่าเนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อสัตว์ที่ไม่แปรรูปต่างก็มีไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีสิ่งเจือปนอย่างอื่นในเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีโอกาสทำให้เกิดโรคที่อันตรายได้ เรามาดูความแตกต่างกัน

การรับประทานเนื้อสัตว์ไม่แปรรูปในปริมาณพอเหมาะไม่เป็นอันตราย นักวิจัยพบว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูปในปริมาณที่พอเหมาะหรือในระดับปานกลาง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อสัตว์ปีก มีผลต่อสุขภาพเป็นกลาง คือ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนั่นเอง

การรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด นักวิจัยในแคนาดาพบว่าการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป 150 กรัมขึ้นไปต่อสัปดาห์มีโอกาสทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจสูงขึ้น 46 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้น 51 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่กินเนื้อสัตว์แปรรูป

เนื้อสัตว์แปรรูปมีเกลือและสารกันบูดสูง เห็นได้ชัดว่าเนื้อสัตว์แปรรูปจะมีปริมาณสารกันบูด ไขมันอิ่มตัวและเกลือสูง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของหัวใจและจะเพิ่มอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

เนื้อสัตว์เทียมไม่ได้ดีต่อสุขภาพเสมอไป ผู้คนส่วนใหญ่มองว่าเนื้อสัตว์เทียมจะดีต่อสุขภาพมากกว่าเนื้อสัตว์จริง ซึ่งการสันนิษฐานแบบนี้ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป เพราะเนื้อสัตว์เทียมอาจจะมีเกลือ น้ำตาล สีสังเคราะห์ และส่วนผสมอื่นๆ ในปริมาณที่มากเกินไป

การยึดติดกับข้อมูลที่บอกว่าเนื้อสัตว์ทำให้สุขภาพไม่ดี ปี 2015 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าการรับประทานเนื้อแดงอาจมีสารก่อมะเร็งในมนุษย์ และพบหลักฐานที่แน่ชัดว่าการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปจะส่งผลต่อการเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน และต่อมลูกหมาก แต่อย่างไรก็เราไม่จำเป็นต้องเลิกกินเนื้อไปตลอดชีวิต เพราะการกินเนื้อตามธรรมชาติที่ไม่ติดมันจะมีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมากกว่าการเลิกกินเนื้อ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ

ที่มา : healthline.com
ออไรซาน : Orizan ออไรซานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด